วันอังคารที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

Granado Espada EXE อัพเดท Kielce

Granado Espada EXE อัพเดท 1/11/2565


อัพเดทเมืองใหม่ Kielce

สามารถไปได้เมื่อเลเวลตระกูล 25 ขึ้นเรือที่ท่าเรือ เมืองไวรอน




เควสตัวละคร 




Kano 

โลลิสายซัพพอท ถืออาวุธประเภทสมุด สามารถช่วยบัพให้ทีมได้ 


--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

JD 

    พี่ชายของ KANO โดดเด่นที่ สามารถใช้อาวุธ ประชิดได้แทบทุกอันในเกม 

ดาบ/เรเปีย/เซเบ้อ/ดาบใหญ่/เครเซ่น(ดาบเสี้ยวจันทร์)

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Heyran 

   เจ้าของ ผับหมวกแดง ใช้มีดเป็นอาวุธ แต่โจมตีระยะไกล สามารถใช้ เป็นตัวดาเมจได้

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



Caisse

จอมพลแห่ง คีลเซ่ ถนัดการใช้ปืน เฮฟวี่สติง (เป็นปืนสไปน์เป้อหนัก ที่มีขาตั้ง) ตัวแสตนตัวละครต้องหาจากการลงมิชชั่น คุกไทเกรส*(อัพเดทมาในแพทนี้เช่นกัน)

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Valeria Vendetta

วาลเรอเรียที่เต็มไปด้วยความแค้น ใช้เรเปียเป็นอาวุธ และยังใช้แสตนบัพได้ด้วยอาวุธเรเปีย 

*เควสค่อนข้างยากต้องผ่าน มิชชั่นบลัดนาวี


--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Barrol

ช่างตัดผมแห่ง คีลเซ่ อดีตจ่านายสิบมือหนึ่ง ถนัดการใช้อาวุธประเภทปืนสั้น


--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Olivia

สายลับ ที่ถูกส่งมาที่เมืองคีลเซ่ ใช้อาวุธประเภทหมัด อนาคตสามารถใช้แสตนหมัดระดับแกรนมาสเตอร์ได้

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Veil
นายพลแห่งเมืองคีลเซ่ ถนัดการใช้อาวุธหน้าไม้ ถือหน้าไม้คู่ สามารถยิงรัวที่สุดในเกม (6ฮิต)

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


มิชชั่นใหม่

1.Blood Navy เป็นมิชชั่นรอง ของแพทนี้ จำเป็นต้องลง เพื่อเควสตัวละคร Valeria Vendetta 

2. คุกไทเกรส(Tigres Prison) มี 10 ชั้น แต่ละชั้นจะ บอสหรือเงื่อนไข การผ่านต่างกันออกไป บอสส่วนใหญ่เป็นประเภท มนุษย์

//นี่เป็นข้อมูล จากค่ายเก่านะครับ//

## Mission Tigress Prison ##

เงื่อนไขในการเข้า : ผ่านเควสหลักบริสเทีย Season 2-2 , ต้องอยู่ในแฟคชั่นที่เลือกฝ่ายแล้ว

– จำกัด Family สูงสุด 12 Family

– เข้าได้ 2 ครั้งต่อวัน ครั้งแรกฟรี หากเข้าครั้งที่สองจะเสียเอลิเมนทัลจีเวล 1 อัน

– ทางเข้าคือ NPC ทหารสำรวจ Tigres ที่เมืองคีลเซ่พิกัด L3

– มิชชั่นมีทั้งสิ้น 10 ชั้น

– แต่ละชั้นจะมีเงื่อนไขการผ่าน 2 แบบคือ แบบ Easy และ Hard

ชั้น 1 F

Tigress Prison ชั้นแรก จะมีบอส 3 ตัว ได้แก่ Sheeny , Agee และ Easelan โดยจะอยู่คนละที่กัน

 

 

– หากเราตีบอส Sheeny หรือ Agee เลือดลดประมาณ 70% ตัวใดตัวหนึ่งจะเดินมาหาอย่างช้าๆ ซึ่งหากเดินมาจนถึงและบอส 2 ตัวนี้อยู่ด้วยกัน จะเพิ่มพลังโจมตีและเรทขึ้นสูงมาก
– หากเราเข้าไปยังห้องบอส Easelan ปุ๊ป ที่ทางเข้าจะมีใบพัดขึ้นมาขวางทันที ทำให้ไม่สามารถออกไปได้ และหากบอส Easelan เลือดลดลงเรื่อยๆ จะเรียกลูกน้องออกมาทีละตัว รอบๆห้อง
– หากกำจัดบอส Sheeny + Agee ลงได้ จะผ่านมิชชั่นแบบ Easy(มีผลกับเหรียญตราที่ได้หลังจบมิชชั่น)
– หากกำจัดบอส Easelan ได้ จะผ่านมิชชั่นแบบ Hard(มีผลกับเหรียญตราที่ได้หลังจบมิชชั่น)

ชั้น 2 F

 

 

บอสตัวแรก Ires ใช้อาวุธปืน มีระยะโจมตีไกลมาก(ยืนอยู่หน้าห้องก็ยังโดนยิง) เมื่อบอสเลือดลดประมาณ 65% บอสจะวาร์ปหนีเข้าไปในห้องขัง(ทำให้อาวุธประชิดไม่สามารถโจมตีบอสได้) และเรียกมอนสเตอร์กลุ่มนึงออกมาโจมตีเรา ถ้าเรากำจัดมอนสเตอร์ให้หมดแล้วบอสจะวาร์ปออกมา และบอสจะบอสจะวาร์ปหนีเข้าไปในห้องขังอีกครั้งเมื่อลดเหลือประมาณ 30% และเรียกมอนสเตอร์ชุดใหม่ออกมา

บอสตัวที่ 2 Phoa มีวีธีการสู้เหมือน Ires ต่างกันแค่มอนสเตอร์ที่เรียกออกมาระหว่างวาร์ปหนี

บอสตัวที่ 3 Eisie มีวีธีการสู้เหมือน Ires ต่างกันแค่มอนสเตอร์ที่เรียกออกมาระหว่างวาร์ปหนี

เมื่อกำจัดบอสทั้ง 3 แล้ว ให้ไปกดสวิทช์ที่อยู่บริเวณพิกัด I8 จะมีมอนสเตอร์วิ่งไปรวมกันที่ห้องขังๆหนึ่ง(ถ้าเรากำจัดมอนสเตอร์ก่อนวิ่งไปถึงห้องขังได้มากเท่าไหร่ บอสจะมีพลังโจมตีและเลือดน้อยลง) หลังจากนั้นบอส Durs จะออกมาจากห้องขัง เมื่อจัดการได้ก็จะผ่านชั้น 2F แบบ Easy

หากไม่กำจัดบอส Ires,Phao,Eisie เลย แล้วไปกดสวิทช์ จะทำให้บอส Durs มี HP ,ระดับโจมตีและป้องกันสูงกว่าปกติ และหากผ่านมิชชั่นได้ จะได้เหรียญตราแบบ Hard

ชั้น 3F

 

 

จะมีบอส 2 ตัวคือ Titame(บอสตัวแรก) และ Vonu(จะเกิดหลังจาก Titame ตาย)
-โดยเมื่อเรากำจัด Titame แล้ว จะมีบอส Vonu เกิดขึ้นที่ห้องด้านล่าง และลึกเข้าไปอีก จะมีเครื่อง Surveillance Device เกิดอยู่ตรงพิกัด K8
– หากเราทำลายเครื่อง Surveillance Device ได้ จะมีทหาร NPC ออกมาช่วยสู้จำนวนหนึ่ง และเมื่อกำจัด Vonu ได้ ก็จะจบมิชชั่นแบบ Easy
– ถ้าไม่ทำลายเครื่อง Surveillance Device และจัดการบอส Vonu ได้ จะจบมิชชั่นแบบ Hard

ชั้น 4F

 

 

ชั้น 4 F จะมี 4 ห้อง โดยมีบอสประจำอยู่แต่ละห้อง และลูกน้องยืนประจำอยู่รอบๆห้อง ได้แก่ Rick , Balmer , Shri  และบอสใหญ่ Lauren

– หากเราโจมตีบอสตัวใดก็ตาม ลูกน้องบอสในห้องนั้นๆทั้งหมด(เฉพาะในห้องนั้น)จะกรูกันเข้ามาโจมตีเราทันที

– หากเราจัดการ Lauren ได้ จะผ่านมิชชั่น

– กรณีที่เราโจมตี Lauren หากบอสตัวอื่นๆอีก 3 ตัวยังไม่ตาย บอสทั้ง 3 ตัวนั้นจะวิ่งมาหา Lauren ทันที รวมไปถึงลูกน้องบอสในห้องนั้นๆด้วย

– กรณีที่จัดการ Lauren ได้โดยที่บอสตัวอื่นๆอีก 3 ตัวยังไม่ตาย จะผ่านมิชชั่นแบบ Hard

– กรณีที่จัดการบอสทั้งหมด(ฆ่า Rick , Balmer , Shri ก่อน แล้วค่อยไปจัดการ Lauren) จะผ่านมิชชั่นแบบ Easy

ชั้น 5 F

 

 

 

ชั้น 5 F จะมีห้องบอสอยู่ 2 ห้องคือ A และ B โดยเราสามารถเลือกได้ว่าจะจัดการบอสตัวใด(ฆ่าตัวใดตัวหนึ่งก็จะผ่านมิชชั่น) แต่ก่อนจะถึงห้องบอสนั้น จะมีทหารยามเดินลาดตระเวนอยู่ คล้ายๆกับมิชชั่นเควส JD และโอลิเวีย

– หาก Family ทั้งหมดสามารถเดินเข้าห้อง A โดนไม่ถูกตรวจจับโดยทหาร จะมีบอส Aran ปรากฎขึ้น

– หากมี Family ใด Family หนึ่ง โดนทหารพบเข้า จะมีบอส Aran และ Lande ปรากฎขึ้น(รวมไปถึงทหารในห้องก็จะเข้ามาโจมตีเราด้วย)

– บอส Aran มีความสามารถในการเพิ่มพลังโจมตีของตนเอง + เพิ่มภูมิต้านทาน

– เมื่อจัดการบอส Aran ลงได้ ก็จะผ่านมิชชั่น

– หาก Family ทั้งหมดสามารถเดินเข้าห้องบอส B โดนไม่ถูกตรวจจับโดยทหาร จะมีบอส Andel ปรากฎขึ้น

– หากมี Family ใด Family หนึ่ง โดนทหารพบเข้า จะมีบอส Andel และ Delkor ปรากฎขึ้น(รวมไปถึงทหารในห้องก็จะเข้ามาโจมตีเราด้วย)

– บอส Andel มีความสามารถในการเพิ่มพลังป้องกันของตนเอง + เพิ่มภูมิต้านทาน

– เมื่อจัดการบอส Andel ลงได้ ก็จะผ่านมิชชั่น

– บอส Aran และ Andel สามารถยกเลิกผลของสกิล โฮล แคนเซิลเลชั่น ได้

– หากจัดการบอส Andel ได้ จะผ่านมิชชั่นแบบ Hard

– หากจัดการบอส Aran ได้ จะผ่านมิชชั่นแบบ Easy

ชั้น 6F

 

ในชั้น 6F นั้น จะแบ่งออกเป็นโซนใหญ่ๆ 2 โซน ตามภาพบนคือโซนสีแดง กับโซนสีน้ำเงิน ซึ่งจะมีวิธีการเล่นเหมือนกัน ต่างกันแค่รายละเอียดเล็กๆน้อยๆเท่านั้น โดยเราจะมาอธิบายในโซนสีแดงก่อน

ในโซนสีแดงห้อง A ภายในจะมีมอนสเตอร์ 2 ชนิดคือ ตัวทหารที่เป็นคน กับมอนสเตอร์ที่เป็นผีลอยอยู่

 

– จำนวนของมอนสเตอร์ทั้ง 2 ชนิด จะเท่ากับจำนวนตัวละครทั้งหมดในปาร์ตี้ที่ลงมิชชั่น(ตัวอย่าง หากลงไป 2 ปาร์ตี้ จะมีทหาร 6 ตัว,ผี 6 ตัว เป็นต้น)

– สิ่งที่ต้องทำคือจัดการมอนสเตอร์ชนิดใดชนิดหนึ่งให้หมด จะเข้าสู่ขั้นตอนต่อไป

*หากจัดการทหารครบจำนวน บอสที่จะเจอตอนท้ายคือ Evil Thought of Soul

*หากจัดการผีครบจำนวน บอสที่จะเจอตอนท้ายคือ Guard Possessed by Soul

หลังจากจัดการมอนสเตอร์ครบจำนวนแล้ว จะมีประกาศขึ้น และใบพัดที่ขวางทางเข้าห้อง B จะหายไป และจะเกิดประตูเรียกมอนสเตอร์ขึ้นในห้อง B ดังภาพ

 

– เราจะมีเวลาประมาณ 2-3 นาที เพื่อป้องกันไม่ให้มอนเตอร์ที่ออกจากประตูทั้งสองข้างเข้าไปประตูแดงตรงกลาง(ฆ่ามอนให้มากที่สุด)

– จำนวนมอนสเตอร์ที่เข้าประตูแดงไปได้ จะมีผลทำให้เรทโจมตีและป้องกันของบอสสูงขึ้น

– เมื่อหมดเวลาแล้ว บอสจะปรากฎตัวขึ้นที่ห้อง C และเมื่อจัดการบอสได้ จะผ่านมิชชั่น

ภาพด้านล่างแสดงสเตตัสของบอส(สภาพที่ไม่ปล่อยให้มอนสเตอร์เข้าประตูแดงได้เลย)

 

ตัวอย่างสเตตัสบอสที่ปล่อยให้มอนสเตอร์เข้าประตูแดงหมดเลย

 

* บอส Evil Thought of Soul จะมีความสามารถเพิ่มพลังป้องกันของตนเอง เมื่อ HP เหลือน้อย

* บอส Guard Possessed by Soul จะมีความสามารถเพิ่มพลังโจมตีของตนเอง เมื่อ HP เหลือน้อย

* บอส Guard Possessed by Soul สามารถยกเลิกผลของสกิล โฮล แคนเซิลเลชั่นได้

* บอส Evil Thought of Soul จะมีพลังโจมตีเพิ่มขึ้่นเมื่อได้รับผลของสกิล โฮล แคนเซิลเลชั่น

ส่วนในโซนน้ำเงินนั้น จะมีวิธีเล่นแบบเดียวกับโซนแดง แต่จะมีจุดที่แตกต่างกันดังนี้

– ภายในห้อง Y จะมีประตูซัมมอนมอนสเตอร์ 3 จุด ดังภาพ

 

– บอสในห้อง Z จะมีสเตตัสต่างกับโซนสีแดง ดังภาพ (สเตตัสในสภาพไม่ปล่อยให้มอนสเตอร์เข้าประตูได้)

 

– หากเราจัดการบอส Evil Thought of Soul จะผ่านมิชชั่นแบบ Hard

– หากเราจัดการบอส Guard Possessed by Soul จะผ่านมิชชั่นแบบ Easy

ชั้น 7F

 

ในชั้น 7 F นั้น จะมีบอสอยู่ 2 ตัว ได้แก่ Mannes และ Patronne

 

– เงื่อนไขผ่านมิชชั่นคือ จัดการบอสทั้ง 2 ตัว

– บอสแต่ละตัวจะมีความสามารถในการบัฟเพิ่มพลังป้องกันทางกายภาพหรือเพิ่มพลังป้องกันเวทมนต์แบบสูงมาก แต่จะไม่บัฟแบบเดียวกัน(หมายถึงหากตัวใดตัวหนึ่งบัฟป้องกันกายภาพ อีกตัวนึงจะบัฟป้องกันเวทมนต์) และบอสสามารถสลับบัฟได้(ตรงนี้ยังไม่ทราบเงื่อนไขว่าจะสลับบัฟตอนไหน)

– เราไม่สามารถลากบอสออกจากห้องได้

– ในห้อง A และ B จะมีมอนสเตอร์อยู่กลุ่มหนึ่ง ตามภาพ

 

– หากเราจัดการมอนสเตอร์ในห้อง A และ B ได้หมด จะมีประตูวาร์ปปรากฎขึ้นในห้องบอสทั้งสอง(จุดวงแดงๆในภาพแผนที่) โดยประตูทั้งสองจะเชื่อมกันระหว่างห้องบอส สามารถวาร์ปไป-กลับได้

– หากจัดการบอสทั้งสอง โดยไม่จัดการมอนสเตอร์ในห้อง A + B จะผ่านมิชชั่นแบบ Hard

– หากจัดการบอสทั้งสอง โดยจัดการมอนสเตอร์ในห้อง A + B ทั้งหมด(มีประตูวาร์ป) จะผ่านมิชชั่นแบบ Easy

ชั้น 8F

ชั้น 8F นั้น เริ่มมิชชั่นมาเราจะมีเวลาแค่ 10 นาทีเท่านั้น เป้าหมายคือจัดการบอส Torturer, Torta  ที่อยู่ในห้องตรงกลางแผนที่

 

 

– หากใช้กรินดิ้งของลิซ่ากับบอส บอสจะมีพลังป้องกันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ(พลังป้องกันที่เพิ่มขึ้นจะอยู่ถาวรจนกว่าบอสจะตาย)
– หากใช้ราเชลโจมตีใส่เน่าเปื่อยกับบอส บอสจะมีพลังทะลุทะลวงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ(พลังทะลุทะลวงที่เพิ่มขึ้นจะอยู่ถาวรจนกว่าบอสจะตาย)
– หากใช้สกิลโฮล แคนเซิลเลชั่นใส่บอส บอสจะมีภูมิต้านทานเพิ่มขึ้นครั้งละ 5 แถมยังยกเลิกผลของโฮลทันที(ภูมิต้านทานที่เพิ่มขึ้นจะอยู่ถาวรจนกว่าบอสจะตาย)

– เมื่อเราโจมตีบอส Torta ปุ๊ป Hangman จะหายไปทันที และด้านนอกห้องจะมีใบพัดเกิดขึ้นตามทางเป็นหย่อมๆ

บอสมีความสามารถสุ่มวาร์ปคนในปาร์ตี้ไปทิ้งห้องอื่นได้(จะโดนวาร์ปไปห้อง Hangman) โดนคนที่ถูกวาร์ปนั้น หากตีมอนสเตอร์ที่เป็นตัวทากสีน้ำเงินตาย จะมีประตูวาร์ปเพื่อกลับมายังห้องบอสได้เลย

 

– หากเราจัดการ Hangman ได้ เวลามิชชั่นจะเพิ่มขึ้นตัวละ 10 นาที (มี 2 ตัว ตำแหน่งตามแผนที่ด้านบน)
– เราไม่สามารถลากบอส Torturer, Torta ออกจากห้องได้
– หากเราจัดการบอส Torturer, Torta โดยไม่ตี Hangman เลย จะผ่านมิชชั่นแบบ Hard
– หากเราจัดการบอส Torturer, Torta โดยแบบตี Hangman ด้วย จะผ่านมิชชั่นแบบ Easy

ชั้น 9F

 

 

ชั้น 9F เริ่มต้นมาเราจะติดดีบัฟ Poison Gas ที่ 1% และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ(ประมาณทุกๆ 4.5 วิจะเพิ่ม 1%) สูงสุดที่ 99%  โดยดีบัฟตัวนี้ เมื่อเพิ่มขึ้นจะมีผลทำให้ตัวละครอ่อนแอลง (พลังโจมตี พลังป้องกัน ความเร็วในการโจมตี ความเร็วในการเคลื่อนที่ ความเร็วในการร่ายสกิล Max HP,SP ภูมิต้านทาน พลังป้องกันธาตุ ฯลฯ ทั้งหมดนี้ลดลงเรื่อยๆ)  แต่ในแผนที่จะมีเครื่อง Ventilator Controller ให้กด ซึ่่งเมื่อกดแล้วดีบัฟ Poison Gas จะรีเซทเหลือ 0% ทุกคน เป้าหมายในการผ่านมิชชั่นคือจัดการบอสทั้ง 3 ตัว ได้แก่ Maruban Fugeen และ Hokitsch

 

– เครื่อง Ventilator Controller เมื่อกดแล้วจะมี cooldown (ไม่ว่ากดที่เครื่องไหน จะติด cooldown พร้อมกันหมดทั้ง 3 เครื่อง)และต้องใช้เวลาชาร์จประมาณ 6 นาที(จะโดน Poison Gas ประมาณ 75%)
– หากติด Poison Gas ถึง 99% แล้ว ถึงกดเครื่อง Ventilator Controller ไป ระดับ Poison ก็จะไม่ลดลง
– บอส Hokitsch จะไม่เกิด หากยังไม่จัดการ Maruban และ Fugeen
– หากผ่านมิชชั่นแบบที่ไม่กดเครื่อง Ventilator Controller เลย จะผ่านแบบ Hard
– หากผ่านมิชชั่นแบบที่กดเครื่อง Ventilator Controller จะผ่านแบบ Easy

ชั้น 10F [ห้องของเรย์โนล]

ในชั้นนี้ดูเหมือนจะไม่มีอะไรมาก โดยเรย์โนลจะยืนรออยู่ที่ห้องด้านซ้ายตามแผนที่

 

โดยรอบๆเรย์โนลจะมีอุปกรณ์ประหลาดอยู่ 4 เครื่อง

 

– เริ่มมิชชั่นมา อุปกรณ์ประหลาดจะเริ่มชาร์ทเกจ หากชาร์ทจนครบ อุปกรณ์จะหายไป
– เรย์โนลจะมี 2 ร่าง ซึ่งความสามารถของร่างที่ 2 จะขึ้นอยู่กับว่าเราทำลายอุปกรณ์ประหลาดได้หมดหรือไม่
– หากเรากำจัดเรย์โนลโดยไม่ทำลายอุปกรณ์ประหลาด จะผ่านมิชชั่นแบบ Hard
– หากเรากำจัดเรย์โนลโดยทำลายอุปกรณ์ประหลาดทั้งหมด จะผ่านมิชชั่นแบบ Easy






วันศุกร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

Lada The Ladies of the Earth ผู้แบกเจตจำนงแห่งผืนดิน




















"เธอลืมตาขึ้นมาและพบเพียงซากปรักหักพัง หยาดน้ำตาได้ไหลลงสู่ผืนดินเธอบอกกับตัวเองว่า ครั้งนี้จะปกป้อง โลกใบนี้ไว้ให้ได้แม้ต้องแลกด้วยชีวิต"

            Lada ได้หลับไหลมาอย่างยาวนานเฉกเช่น Orden และ Aclla ยามเมื่ออเดน ถูกปลุกขึ้นมาเธอได้ลืมตาตื่นขึ้น ด้วยจุดมุกหมายเพื่อหยุดจั้ง orden เช่นเดียวกัน


[อัคราพลังแห่งจักรราศี-ออเด็นขุมพลังที่มืดมน-ลาด้าเจตจำนงแห่งธรณี]




คอนเซปของตัวละครนั้น ถูกสร้างขึ้นมาให้เหมือนกับนักเดินทางที่ออกท่องเที่ยวไปทั่วผืนปฐพีเธอคือหนึ่งในผู้เกี่ยวข้องกับสงครามผนึกออเดนในคราก่อน เธอกวัดแกว่งอาวุธขนาดมหึมาด้วยมือทั้งสอง 






บทบาทของตัวละคร

    ลาด้านั้น เฉกเช่น ซิริอัสและนักรบอื่นๆ เธอแบกเจตจำนงแห่งการปกปักเพื่อปกป้องพวกฟ้องจากอันตราย แน่นอน อัศวินคนอื่นๆอาจจะ มีพลังป้องกันที่สูงส่ง และโล่ของพวกเขาหากแต่เธอ เลือกที่จะฟาดฟันเหล่าศัตรูให้ดับดิ้น เพื่อปกป้องพวกพ้อง อาศัยการปัดป้อง(block) จากอาวุธขนาดยักษ์ของเธอ



ทักษะประจำตัว: Gaia(ไกอา)
 ด้วยเจตจำนงแห่งผืนดิน ในนามของผู้ ผูกพัธะกับพระแม่แห่งธรณี เธอได้รับพลังจากผินดินอันยิ่งใหญ่ [ overflowing life buff ] ที่จะช่วยเพิ่มพลังชีวิตของเธอเพื่อให้มีพลังมากพอจะต่อกรกับอันตรายที่เกิดขึ้น
  
Stance: Atlas  อาวุธที่สวมใส่ [รอด/สตราฟ]
  ด้วยเพันธะแห่งผืนดินเธอแบกเจตจำนงแห่งสวรรค์ เฉกเช่น เทพ Atlas ผู้แบกโลกไว้บนหลัง เธอกวัดแกว่ง อาวุธของเธอเพื่อทำลาย พลังแห่งความมืดให้สิ้นซาก 


all Las
 ใช้พลังแห่งผืนดิน สร้างพื้นที่แห่งการลงทัณฑ์ สร้างความเสียหายอย่างต่อเนื่องให้แก่ศัตรูที่อยู่ในพื้นที่นั้น อนึ่ง หากสัตรู บินอยุ่บนฟ้า (อาจจะ) ทำให้ ตกลงสุ่พื้นดิน



Geyser
 เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วไปยังจุดที่ศัตรูอยู่ แล้วฟาดฟันศัตรูด้วยความโกรธาแห่งผืนดิน 



The interruption
 กวัดแกว่งอาวุธในมือด้วยความเร็วสูง เพื่อหยุดดยั้งศัตรุของเธอ


Rebound
 บทสวดแห่งปฐพี ยามเมื่อเธอ เอ่ยร่ายโคลงกลอน (channeling) พลังแห่งผืนดินจะสถิต ณ ตัวเธอ อาศัยกระแสธาร แห่งชีวิต ปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายรอบตัวเธอให้หมดไป



Lahar
 เจตจำนงแห่งชะตากรรม ที่ขับกล่อม เธอเคลื่อนย้ายตัวเธอไปตามท่วงทำนองแห่งผืนดิน กวัดแกว่งอาวุธในมือของเธอ เพื่อปัดป่องสิ่งชั่วร้ายอาศัย พลังแห่งพันธะสัญญา จบชีวิตศัตรูของเธอ





ที่มาของแสตน+ความสามารถตัวละคร
http://ge.hanbiton.com

คำบรรยาย
[แต่งเติมเพื่อเพิ่มอรรถรส]


















วันพุธที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2558

Rod-R หมอกมายาแห่งลางร้าย [30%]

Rod-R 
หมอกมายาแห่งลางร้าย




แสตนอัลติเมทของวิซาด เพิ่มพลังทำลายล้างจำนวนมาก
สถานะเมื่่อlv25
อัตตราคูณ :X
ป้องกันวเทย์30%
แม่นยำ 100
ทะลุ30+30
ภูมิ20+20

[คาดว่าทุกท่าน่่าจะไม่ิคดต้านทาน]
[สถานะผิดปกติ ยังแปลไม่ครบอีกจำนวนมาก]
ปฐมภูมิ[Amesia] 
lv10 คูลดาว 35วิ โจมตี500% ระยะ 18เมตร1เป้าหมาย 
โอกาศติด โฮลแคลเซิล 100%


พัญธะแห่งความเจ็บปวด[Curse Contract]
lv10 คูลดาว 15วิ โจมตี 1300% ระยะ 20เมตร 1เป้าหมาย
โอกาศติด บลัสเคิส 100% [จากแสตนดาคแนส](บลัดเคิสเลเวล5ไม่ยืนยัน)


เขตแดนแห่งความมืด[Field of Abyss]
lv10 คูลดาว 20วิ โจมตี 200% ระยะ10เมตร รัศมีวงกลม10เมตร 30เป้าหมาย
โอกาศติด เฮลเบรค(จากแสตน เมดเนสของมี่มืด)100% (ลดพลังป้องกันและไม่สามาเคลื่อนที่



ใบมีดพลังจิต[Diekinesis]
lv10 ตูลดาว 30วิ โจมตี 1700$% 1เป้าหมายระยะ15เมตร






คูลดาว60วิ โจมตี 2800% 1เป้ามหาย ระัยะ14เมตร 
ลด hp ผุ้ใช้เหลือ1 บอกทีว่ากูแปลผิด!!


























วันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

Kano the Daughter of Chaos [Evo.NPC]

Kano the Daughter of Chaos
คาโน่ บุตรสาวแห่งความโกลาหล




สเตตัสพื้นฐาน
STR 40 AGI 50 CON 50 DEX 60 INT 90 SEN 60

แสตนที่มี
Enhanced Tactics แบบใส่หนังสือได้


Storytelling

อาวุธที่ใช้:สารานุกรม[Encyclopedia]
อัตราคูณพลังโจมตี 10.7 โจมตี1ครั้ง แม่นยำ 100 พลังโจมตี+30%
บล็อค+25 ฟื้นคืนSP+35 ทะลุทะลวง 20+35 ภูมิต้านทาน 5+10 โอกาศทะลุป้องกัน 2%


กำแพงแห่งคารัน[Wall of Curan]
bep_curanshield.jpg
lv 10 SP 600 ลดดาเมจที่ได้รับจากทักษะ 20% จำนวน10ครั้ง


เพลิงอเวจี[Flame of Chester]
bep_chesterfire.jpg
lv10 SP 500 ATK 300% ระยะ5-7เมตร รัศมี 6 เมตร (วงกลม) สูงสุด8 เป้าหมาย โอกาศไฟไหม้ 75%


คมดาบราชวงศ์[Richard Holy Sword]
bep_richardsword.jpg
lv10 SP 700 ATK 1000% ระยะ ยาว15เมตรกว้าง 5เมตร สูงสุด12เป้าหมาย โอกาศสตั้น 75%


เสียงเรียกจากสุสาน[Veiren and Reaper]
bep_veirenreaper.jpg
lv10 SP 800 ATK 800% ระยะ7เมตร รัศมี6เมตร(วงกลม) สูงสุด12เป้าหมาย โอกาศติดเจ็บปวด 75%



คมหอกแห่งจีนอส[Genos's Spear]
bep_genosspear.jpg
lv10 SP 1000 ATK 1300% ระยะ16เมตร รัศมี6เมตร(วงกลม)สูงสุด12เป้าหมาย
 โอกาศติดสนามไฟฟ้า 75% 












Rifle Ultimate หนึ่งนัดล้มมังกร

Rifle Ultimate 
หนึ่งนัดล้มมังกร

            ไรเฟิลอัลติเมทคือหนึ่งในแสตนชุดใหม่ของเหล่าตัวละครพื่้นฐานซึ่งแสตนแรกที่ออกมาคือแสตนของเหล่ามือปืนนั่นเอง โดยแสตนนี้นั้น หาได้จาก อินฟินิตี้ ชาเลนจ์ ชั้นที่71ขึ้นไป ซึ่งอัตตราการได้นั้นยากมาก (จริงๆแค่ชั้น50 ผู้เขียนก็ตายแล้ว) สำหรับความสามารถจะเป็นอย่างไรนั้นไปดูกันเลยครับ


อาวุธพื้นฐาน:ปืนไรเฟิล
อัตตราคูณพลังโจมตี 10.0      จำนวนครั้งที่โจมตี 2
แม่นยำ 40  พลังโจมตี +10% คริติคอล+50% ทะลุทะทวง+30 Spฟื้นคืน20 ทะลุการป้องกันโอกาศ15%


ดวงตานักล่า [ Wolf Eye ]
Urufuai
พลังโจมตีระยะไกลเพิ่มขึ้น
lv10 เรทโจมตี+1   lv11 เรทโจมตี +2


หอคอยเพลิงนรก [Back Step Inferno ]
Breakout
Sp 300 ระยะโจมตี 5เมตร รัศมี(วงกลม) 6เมตร สูงสุด8เป้าหมาย 
lv10 ATK 1000%  โอกาศลุกไหม้ 100%


เปลวเพลิงมังกรดำ[ Coffin flame]
Kafin Flame
Sp 700 ระยะโจมตี 25เมตร 1เป้าหมาย
lv 10  ATK 1500% อ่อนแอ 100%


กระสุนกัมปนาท[Lost explosion]
Lost explosion
Sp 1200 ระยะโจมตี 15-25 เมตร รัศมี 12เมตร สูงสุด8เป่้าหมาย
lv10 ATK 500% ทะลุพลังป้องกัน 30 โอกาศติดลดพลังป้องกัน(DEF=0)20% ทำให้ศัตรูล้ม


 อเวจีทวงแค้น [InfernoAvenger]
Inferno Avenger
Sp 1200 ระยะโจมตี 10-30เมตร 1เป้าหมาย
lv10 ATK 1500% ทะลุพลังป้องกัน 50 ระบำแห่งความตาย 100% บล็อคไม่ได้ ไม่สนพลังป้องกันของโล่








Musketeer หนึ่งนัดสยบมังกร

 Musketeer 
หนึ่งนัดสยบมังกร



สเตตัสปัจจุบัน 
STR 50 AGI 65 CON 50 DEX 85 INT 30 SEN 50


    สำหรับมือปืนของเรานอกจากจะได้รับการปรับสเตตัสแล้วยังเป็นอาชีพแรกที่ได้รับแสตนใหม่เพิ่มอีกด้วยหากแต่หนทางการได้รับนั้นยากยิ่ง เพราะหนังสือสำหรับเรียน สุ่มจาก มิสชั่น การท้าทายที่ไร้สิ้นสุดชั้น 71 เป็นต้นไป [Infinite Challenge 71+] เราไปดูสกิลที่น่าสนใจกันเลยครับ 

สกิลติดตัว
;v10 โจมตีมอนเตอร์แรงขึ้น 10% ความแม่นยำ 30 คริติคอล+15% เรทโจมตี+2



สำหรับแสตนใหม่นั้น อ่านได้ที่












Warlock จอมมนตราแห่งอดีตกาล

Warlock 
จอมมนตราแห่งอดีตกาล



สเตตัสปัจจุบัน
STR 30 AGI 60 CON 50 DEX 50 INT 80  SEN 70

         วอล็อคนั้นได้รับการปรับทั้งสเตตัสและสกิลให้ทรงพลังขึ้นอย่างมาก ด้วยCON 50 ทำให้ถึกขึ้น AGI 60 ทำให้สามารถทำความเร็วโจมตีสูงสุดได้ง่ายขึ้น INT และ SEN ทำให้ยิงได้แรงและเร็ว


สกิลติดตัว
พลังทะลุทุกธาตุ +15 ระดับโจมตี +3 โจมตีมอนเตอร์แรงขึ้น 100%


Stance:The Magic of Occultism
ปรับอัตตราคูณพลังโจมตี จาก 4.0 เป็น 12.3 หรือแรงขึ้นประมาณ 3้ท่า!